ไหน หรือ พลัม (Plum)
ไหน หรือ พลัม (Plum)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Prunus domestica L. จัดอยู่ในวงศ์ ROSACEAE ในตระกูลพรุน เช่นเดียวกับลูกท้อ บ๊วย เชอรี่ อัลมอนด์ และนางพญาเสือโคร่ง และมีถิ่นกำเนิดจากบริเวณคอเคซัสในเอเชียตะวันตก
ชื่อท้องถิ่น เชอรี่ดอย ลูกไหนคือชื่อที่คนทั่วไปเรียก บางแห่งเรียกลูกพรุน(ลูกพลัมตากแห้ง) บางแห่งเรียกลูกพลัม
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น : พลัมเป็นผลไม้ยืนต้น มีลักษณะทรงต้นค่อนข้างเล็กเช่นเดียวกับต้นพืช การปลูกในประเทศไทยต้องปลูกในที่ที่มีความหนาวเย็น และพื้นที่ที่จะปลูกจะต้องมีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,000 เมตรขึ้นไป
ใบ : ปลายและโคนใบแหลม แผ่นใบสีเขียว ขอบใบเป็นจักคล้ายฟันเลื่อยแบบถี่ๆ
ดอกพลัม : ดอกมีขนาดเล็กและมีสีขาว ดอกเป็นดอกแบบสมบูรณ์เพศ ปกติแล้วจะผสมตัวเองไม่ได้ แต่จะต้องผสมข้ามสายพันธ์และเฉพาะเจาะจงพันธุ์เท่านั้น และจะออกดอกในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากได้รับความหนาวเพียงพอ
ผลและเมล็ด : ผลมีความหลากหลายทั้งในเรื่องของขนาด สีของผล และเนื้อของผล ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่เพาะปลูก บางพันธุ์ผลอาจมีร่องยาวด้านข้าง เมื่อผลโตเต็มที่จะมีสีขาวปกคลุมอยู่ ซึ่งเรียกว่า Wax bloom เนี้อมีรสหวานหรือหวานอมเปรี้ยว ด้านในผลมีเมล็ดแข็งอยู่ 1 เมล็ด
การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์โดยเพาะเมล็ด , กิ่งปักชำ , เสียบยอด
ประโยชน์ของลูกไหน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกพลัมชนิดที่ใช้รับประทานกันแบบสดๆ (ลูกพรุนสด) เหมือนผลไม้ทั่วไป ได้แก่ พันธุ์กัลฟ์โกล พันธุ์กัลฟ์รูบี้ พันธุ์เหลืองบ้านหลวง และพันธุ์แดงบ้านหลวง ส่วนกลุ่ม2 คือ พลัมสำหรับแปรรูป เช่น การนำมาทำเป็นแยมพลัม น้ำลูกพลัม นำมาดอง หรือนำมาแช่อิ่ม คือพันธุ์จูหลี่ หรือจะนำไปตากอบแห้งก็ได้
--------------------- โฆษณา ---------------------
- ป้องกันริ้วรอยก่อนวัย เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นวิตามินซี มีส่วนช่วยป้องกันการถูกทำลายของเซลล์ในร่างกายและช่วยส่งเสริมการผลิตของคาร์นิทีน,นอร์เอพิเนฟริน และคอลลาเจน ที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวพรรณยังคงอ่อนวัยและไร้ริ้วรอย
- ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ชะลอความแก่ เสริมสร้างกระดูก บำรุงผิวพรรณ บำรุงสายตา บำรุงการไหลเวียนโลหิต
- บำรุงสมองและความจำ กินลูกไหนอบแห้งวันละ 4-5ชิ้น จะช่วยให้ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระมากขึ้น เนื่องจากสารเหล่านี้จะช่วยต่อต้านการถกทำลายของเซลล์สมองอันเนื่องมาจากสารอนุมูลอิสระ
- เสริมสร้างกระดูกในหญิงวัยหมดประจำเดือนให้แข็งแรง ในลูกไหนอบแห้งจะมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อกระดูกในบริเวณกระดูกสันหลังและต้นแขน จึงมีส่วนช่วยให้อาการของโรคกระดูกพรุนบรรเทาลงได้
- บำรุงสายตา ในลูกไหนนอกจากมีวิตามินซีและวิตามินเคแล้ว ยังมีวิตามินเอ(8%ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน) จึงช่วยบำรุงสายตาให้ดีขึ้น แถมยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของกระดูกเพิ่มขึ้นอีกด้วย
- บำรุงสุขภาพของหัวใจ โพแทสเซียมที่อุดมอยู่ในลูกไหนมีส่วนช่วยในการควบคุมความดันโลหิต ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจอีกด้วย
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เป็นผลไม้ที่มีระดับดัชนีน้ำตาลในระดับที่ต่ำ จึงเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 2
- ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น เป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงถึง 1 กรัม จึงมีส่วนช่วยแก้ปัญหาท้องผูกหรือการขับถ่ายลำบากได้ดีนั่นเอง
- เป็นสุดยอดผลไม้ลดน้ำหนัก เป็นผลไม้ที่มีสารไฟโตนิวเทรียนท์และแร่ธาตุสารอาหารสูง แต่มีแคลอรี่ต่ำ ถึงแม้มีรสหวาน โดยได้มีการค้นพบว่าการกินลูกไหนอบแห้งนั้นจะช่วยควบคุมความอยากอาหารได้เป็นอย่างดี ช่วยลดอาการหิวบ่อยๆ
ข้อควรระวัง
- คนเป็นโรคหัวใจโตไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะเมื่อรับประทานผลเข้าไปแล้วประมาณ 10 นาที จะทำให้แน่นหน้าอก ควรรับประทานวันละ 1 ผล เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพจนชินก่อน เมื่อไม่มีอาการค่อยเพิ่มปริมาณเป็น 10 ผล รับประทานประมาณ 3 เดือน จะทำให้เลือดไหลเวียนดี
- หญิงมีครรภ์ห้ามรับประทานเด็ดขาด
- ค่อนข้างเป็นอันตรายสำหรับเด็กและไม่แนะนำให้เด็กรับประทาน เนื่องจากมีแร่ธาตุสูงจนเกินไปสำหรับเด็ก และจะไปกระตุ้นระบบขับถ่าย
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคไต ผู้ที่ต้องล้างไตอยู่เป็นประจำ รวมไปถึงผู้ที่มีอาการถ่ายเหลวหรือมีอาการของลำไส้ที่ไม่ปกติห้ามรับประทานลูกพรุนโดยเด็ดขาด
นอกจากคุณสมบัติที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ปัจจุบันยังเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มคนที่ปลูกไม้ประดับ เพราะผลและดอกที่สวยงาม เรียกได้ว่าไม่ได้เป็นแค่ไม้ประดับแต่ยังมีคุณสมบัติสรรพคุณทางยาสูง เพราะมีฤทธิ์เป็นยาสมุนไพรซึ่งมีสรรพคุณหลากหลายช่วยซ่อมแซมร่างกายและช่วยรักษาโรคได้แทบทุกชนิด เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้หันมาใช้สมุนไพรจากธรรมชาติบำบัดและบำรุงร่างกายอย่างดีทีเดียว เห็นแบบนี้ต้องรีบหามาปลูกได้แล้ว ผู้รักสุขภาพไม่ควรพลาดค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก www. medthai.com , มูลนิธิหมอชาวบ้าน
เรียบเรียงข้อมูลโดย www.herbaltreatmentguru.com